วลีที่ว่า “สิ่งที่ทำให้ผู้หญิงหวาดกลัว” ได้มาจากรายงานอันทรงพลังของรายงานข่าวแนวสืบสวนสอบสวนของสำนักข่าวอัลจาซีรา เกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ การใช้อำนาจโดยมิชอบและความรุนแรงต่อผู้หญิงในมหาวิทยาลัยในประเทศสหราชอาณาจักร การล่วงละเมิดทางเพศ การใช้ความรุนแรงที่ปรากฎเนื้อหาในรายงาน และการแสวงหาประโยชน์จากความเปราะบางของผู้หญิงสร้างความกลัวให้แก่แรงงานหญิงในสถานที่ทำงานทุกวัน
สาเหตุหนึ่งที่แรงงานหญิงต้องเผชิญกับความรุนแรงและการล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงานคือ ความเปราะบางในเชิงระบบที่แผ่ไปทั่วสถานที่ทำงาน
จากการทำงานของเราที่ร่วมกับผู้นำสหภาพแรงงานหญิงและสมาชิกสหภาพแรงงานโรงแรม ร้านอาหาร การแปรรูปอาหาร และการเกษตรในช่วงสี่ปีที่ผ่านมานั้น เราได้มองเห็นถึงปัญหาความเปราะบางเชิงโครงสร้างประเภทต่างๆ ทั้งทางกายภาพและทางเศรษฐกิจ
ความเปราะบางทางกายภาพ หมายถึง การทำงานอย่างโดดเดี่ยวและการเดินทางไปกลับที่ทำงาน การทำงานอย่างโดดเดี่ยวยังรวมถึงสถานการณ์ที่มีผู้หญิงทำงานเพียงไม่กี่คนและรายล้อมด้วยคนทำงานชายจำนวนมากในที่ทำงาน ทำให้พวกเธอตกอยู่ในความเสี่ยง หรือในสถานการณ์ที่ผู้หญิงทำงานคนเดียวในพื้นที่เกษตรทั้งขนาดเล็กและแปลงใหญ่ หรือเป็นพนักงานขายที่ต้องเดินทางไปยังบ้านลูกค้า รวมทั้งความเปราะบางระหว่างการเดินทางไปและกลับจากที่ทำงาน ไปจนถึงการใช้ระบบขนส่งสาธารณะและยานพาหนะที่นายจ้างจัดให้ซึ่งมีสภาพแออัด การถูกบังคับให้โบกรถไป-กลับจากที่ทำงาน หรือเดินไกลไปทำงานในแปลงเกษตรหรือที่กักเก็บน้ำ
ความเปราะบางทางเศรษฐกิจที่เรายกมาอภิปรายในที่นี้ คือ ค่าจ้างต่ำหรือค่าจ้างราคาถูกที่ทำให้ผู้หญิงไม่สามารถพาตนเองให้หนีพ้นจากความรุนแรงได้ ซึ่งเกิดขึ้นทั้งในที่ทำงานและที่บ้าน การทำงานที่ผู้หญิงได้รับค่าจ้างต่ำนั้นเปราะบางอยู่แล้วและยิ่งไม่สามารถหางานใหม่ได้ พวกเธอจึงไม่สามารถเป็นอิสระทางเศรษฐกิจเพื่อหนีจากความรุนแรงในครอบครัวได้ ผู้นำสหภาพแรงงานหญิงของเราหลายคน มองว่า ค่าจ้างที่เหมาะสมหรือ “ค่าจ้างยังชีพได้” ในการเจรจาต่อรองร่วมนั้น สามารถช่วยลดความเปราะบางทางเศรษฐกิจของแรงงานหญิงและช่วยขจัดความรุนแรงที่เกิดจากความเปราะบางนั้น
สมาชิกของเราพูดถึงความเปราะบางทางเศรษฐกิจประเภทต่างๆ ซึ่งได้แก่ แรงงานขัดหนี้ และความรุนแรงที่ผู้หญิงต้องเผชิญเมื่อถูกกำหนดให้เป็นเสมือน “ทรัพย์สิน” ชิ้นหนึ่ง หญิงม่ายที่ถูกปฏิเสธการเข้าถึงสิทธิในที่ดินและสิทธิประโยชน์จากรัฐ ผู้หญิงถูกกีดกันจากผลประโยชน์ของครอบครัวซึ่งให้ผู้ชายได้เพียงฝ่ายเดียว โดยเฉพาะที่พักอาศัยและค่าจ้าง (อาหารจำเป็น เช่น ข้าว เมล็ดพืช) จากภาคเกษตร การรับสมัครพนักงานใหม่และการจ้างงานไม่มั่นคง
การล่วงละเมิดทางเพศกับการถูกใช้ประโยชน์โดยมิชอบจากกระบวนการสมัครงานและรับเข้าทำงาน การผ่านการทดลองงาน การประเมินผลงาน การได้งานประจำ หรือการต่ออายุสัญญาชั่วคราวนั้นเกิดอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้เป็นเพราะมีการใช้อำนาจที่เหนือกว่ากดทับความมั่นคงในการทำงาน อาชีพการงาน และการส่งเสริมแรงงานหญิงนั้นกระจุกตัวอยู่ในมือของผู้ชายในตำแหน่งผู้บริหารและหัวหน้างาน อำนาจนี้ถูกใช้ในทางที่ผิดเป็นประจำและมักไม่มีมาตรการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ
แม้จะอ้างนโยบายไม่ประนีประนอมกับการเลือกปฏิบัติและการล่วงละเมิด นายจ้างส่วนใหญ่รวมถึงร้านอาหารขนาดใหญ่ บริษัทเครื่องดื่มและการเกษตรข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลกบางแห่ง กลับไม่ได้ดำเนินการใดๆ เพื่อจัดการแก้ไขความเชื่อมโยงระหว่างความเปราะบางทางเศรษฐกิจกับการใช้อำนาจโดยมิชอบ แต่กลับปกป้องการจ้างงานที่ไม่มั่นคง (งานที่ไม่มั่นคง เช่น งานชั่วคราว งานไม่เป็นทางการ การจ้างแรงงานเหมาจากภายนอก) ในแง่เศรษฐกิจ ซึ่งทั้งหมดเกี่ยวข้องกับความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพของธุรกิจ ทว่างานที่ไม่มั่นคงเป็นสาเหตุพื้นฐานของความเปราะบางทางเศรษฐกิจของแรงงานหญิง ทำให้พวกเธอต้องเผชิญปัญหาการล่วงละเมิดและถูกใช้อำนาจโดยมิชอบของผู้ชายที่มีอำนาจตัดสินใจในการต่อสัญญา เป็นที่มาพื้นฐานของความหวาดกลัวของผู้หญิง
จึงเป็นบทบาทของเราในฐานะสหภาพแรงงานที่จะต้องปกป้องแรงงานหญิง ไม่ให้เผชิญกับความกลัวนั้นอีกต่อไป เราต้องมีบทบาทหยุดยั้งความรุนแรงต่อผู้หญิง แต่เราต้องดำเนินการในฐานะสหภาพแรงงานเพื่อขจัดสาเหตุที่สำคัญที่สุดของความกลัวในที่ทำงาน นั่นคือ ความรู้สึกไม่ปลอดภัยและความกลัวที่เกิดจากการสรรหาพนักงานใหม่ การจ้างงานชั่วคราวและงานไม่มั่นคง
เราต้องเปิดโปงอำนาจและความเปราะบางที่อยู่เบื้องหลัง “สิ่งที่ทำให้ผู้หญิงหวาดกลัว” และเราต้องสู้ในนามสหภาพแรงงาน
ขอให้พวกเราพร้อมใจร่วมรณรงค์เนื่องในวันขจัดความรุนแรงต่อสตรี ในวันที่ 25 พฤศจิกายน เพื่อให้สหภาพแรงงานออกมาเรียกร้องมากขึ้นทุกวันนับจากนี้ เรามาช่วยกันทำให้กิจกรรมเกิดขึ้น พลังและการรวมกลุ่มของเราควรปกป้องและสนับสนุนผู้หญิงที่กล้าพูดความจริง การที่คนทำงานหญิงจะไม่เผชิญกับความกลัวอีกต่อไปนั้น แรงงานทุกคนต้องยืนอยู่เคียงข้างกัน เพื่อหยุดยั้งความรุนแรงต่อผู้หญิง
Hidayat Greenfield เลขาธิการไอยูเอฟภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก